Tuesday, February 12, 2008

ขมจดจำ หวานจับใจ

งานเขียนชิ้นนี้เขียนเก็บไว้นานแล้วค่ะ เนื่องจากพี่ที่รู้จักกันขอให้เขียนมาลงนิตยสารแฟชั่นของเขาประกอบกับเรื่องราวของนางแบบ ผ่านไปประมาณปีกว่า รู้สึกว่าอยากหยิบมันขึ้นมาให้คนอื่นลองอ่านดูบ้าง

Bitter Sweet Memory

ตู้กระจกหน้าร้านขายขนมเต็มไปด้วยเด็กๆ ยืนเอาหน้าแนบกระจกร้าน พวกเขามองดูลูกกวาดหลากชนิด รวมถึงช็อกโกแลตห่อกระดาษที่จัดอยู่ภายในพลางชี้ให้เพื่อนดูว่ามีชิ้นไหนบ้างที่ตนอยากจับจอง
พวกเขาคงนึกว่าเอาหน้าแนบกระจกอย่างนั้นแล้วจะสามารถทะลุผ่านไปลิ้มรสขนมหวานได้กระมัง
เจ้าของร้านนึกสนุกอยากจะแกล้งเด็กเหล่านั้นบ้าง เขาค่อยๆ คลานหลบต่ำไปหน้าร้านเงียบๆ แล้วกระโดดแลบลิ้นหลอกเด็กๆ พวกนั้นจนตกใจวิ่งแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง

เขาหัวเราะชอบใจที่แกล้งเด็กพวกนั้นสำเร็จกำลังหันหลังกลับไปหยิบผ้ามาเช็ดกระจกแต่ยังไม่ทันกลับหลังหันไป เขาเห็นหัวเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก้มต่ำอยู่ คงไม่ทันได้วิ่งหนีไปเหมือนเพื่อนๆ
เธอนั่งจุ้มปุ๊กอยู่คนเดียว สงสัยไม่รู้ว่าเพื่อนๆ วิ่งหนีหายไปหมดแล้ว มือเล็กๆ ทั้งสองข้างปิดตาแน่นจนมองไม่เห็นหน้า รอยยิ้มพลันปรากฏอยู่บนใบหน้าชายหนุ่มเจ้าของร้านอีกครั้ง

เขาเดินออกมาหน้าร้านเงียบๆ หวังจะแกล้งให้เด็กผู้หญิงสะดุ้งตกใจ ค่อยๆ เขยิบไปใกล้ทีละก้าว... ทีละก้าว... ทีละก้าว... เพื่อเข้าประชิดตัวเด็กผู้หญิงคนนั้น
บู้! “เฮ้ย” เขาหงายหลังล้มตึง
ให้ตายสิ กลับกลายเป็นเขาที่ตกใจเสียเอง เด็กผู้หญิงยิ้มกว้างหัวเราะคิกคักก่อนวิ่งออกไป เธอหันกลับมาโบกมือให้เขาทั้งๆ ที่ยังหัวเราะอยู่อย่างนั้น
เธอวิ่งไกลออกไปแล้ว ทิ้งให้ชายหนุ่มยังยืนตะลึงนิ่งอยู่ที่เดิมคนเดียว
“โดนเด็กเอาคืนจนได้” เขายิ้ม ในใจไม่ได้มีความโมโหเหมือนผู้ใหญ่คนอื่นที่มักรู้สึกเสียหน้าเวลาโดนเด็กแกล้ง ใบหน้าของเด็กคนนั้นยังประทับอยู่ในใจเขาแม้ในฝัน

..................

เช้าวันรุ่งขึ้นชายหนุ่มลุกขึ้นมามีแรงบันดาลใจจัดร้านใหม่ ความฝันเมื่อคืนคล้ายกับจะมีเด็กผู้หญิงคนนั้นมาคอยช่วยทำขนมอยู่ข้างๆ เธอสูงไม่ถึงเอวเขาด้วยซ้ำแต่สามารถทำขนมได้คล้องแคล้วเหมือนผู้ใหญ่มืออาชีพ แต่นั่นเป็นภาพลางๆ เท่านั้น ตอนนี้สิ่งที่ชัดเจนกว่าอยู่ตรงหน้า
ขนมหลายสีสันและรูปร่างใหม่ๆ ถูกนำมาจัดอวดโฉมอยู่หน้าร้าน ทำให้บรรยากาศสดใสขึ้นอีกมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะรู้สึกแจ่มใสตลอดเวลาที่นั่งเฝ้าอยู่ที่ร้านอยู่แล้วก็ตาม ยิ่งได้ทำขนมลูกกวาดสีใหม่ๆ นำมาวางแทนที่ขนมเดิมยิ่งทำให้รู้สึกร่าเริงเพิ่มขึ้นอีก
ระหว่างที่เขาวางขนมแต่ละชิ้นเขาจะรู้สึกถึงรสชาติของมันไปด้วย อมยิ้มสีรุ้งอันนี้เมื่ออมอยู่ในปากจะมีรสหวานในขณะเดียวกันยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดอยู่ในปากด้วย คนที่กินจะรู้สึกถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ยามฝนหยุดตกใหม่ๆ แน่นอนว่าสายรุ้งที่ทอดผ่านท้องฟ้าเป็นแรงบันดาลใจในการทำอมยิ้มชนิดนี้ สำหรับลูกกวาดเม็ดกลมหลากสีมาจากงานเทศกาลประจำปี ทั้งบนอาคารและต้นไม้ถูกประดับด้วยลูกโป่งหลายสี เหมือนลูกกวาดหลายเม็ดที่มีสีไม่ซ้ำกันอย่างนี้
สำหรับช็อกโกแลตรสขมเป็นสูตรที่พิเศษกว่าขนมหวานชิ้นอื่นๆ มันคือความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน

..................

นึกไปแล้วหน้าเธอเหมือนเด็กผู้หญิงคนเมื่อวาน ลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง จมูกรั้น ตาดำกลมโต ผิดแค่ตรงใบหูของเธอที่กางน้อยกว่าเด็กคนนั้นสักหน่อย
หน้าร้อนเธอไม่กลัวที่เดินผ่านทางเดินที่มีร่มไม้ ทั้งๆ ที่ทุกคนเดินหลบอยู่ใต้ร่มตึกเท่านั้น หน้าฝนเธอคือคนที่ออกไปเล่นน้ำฝนไม่กลัวเป็นหวัดเลยสักนิด หน้าหนาวเราสองคนทำช็อกโกแลตร้อนกินให้ใจอุ่นอิงกัน ความทรงจำตอนนั้นเหมือนลูกกวาดและอมยิ้มหลากสีที่สร้างความร่าเริงให้เขาอยู่เสมอ
นั่นคือความโชคดีที่เกิดขึ้นในชีวิต ครั้งหนึ่งที่มีคนรัก ครั้งหนึ่งที่ความฝันอยู่ใกล้แค่เอื้อม หรือความสุขนิรันดร์ไม่ได้ยากเย็นเช่นใครคิด

..................

ที่จริงแล้ว... ความสุขนิรันดร์ได้มายากยิ่ง ความฝันสร้างความมุ่งมั่นให้ใจพุ่งไปยังจุดหมาย ในเมื่อความฝันของเธอต่างไป หัวใจของเธอจึงพุ่งไปทางนั้น
ช็อกโกแลตขมนี้จึงเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่เราต่างแยกทางเดิน

..................

เด็กผู้หญิงคนเมื่อวานยืนอยู่หน้าร้านด้วยแววตาเป็นประกาย ชายหนุ่มมัวแต่นั่งนึกถึงอดีตของตัวเองจนลืมมองว่าเธอค่อยๆ ก้าวเข้ามาในร้านแล้ว
“พี่ชายทำขนมแบบใหม่เหรอคะ”
เขาตกใจตื่น เปล่าหรอก เขาไม่ได้ตื่นจากฝัน หากแต่เขาตื่นจากอดีตที่มีเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนปลุก
เด็กผู้หญิงยื่นเหรียญทองให้เขาพร้อมกับชี้ไปที่ช็อกโกแลตขมที่ห่อด้วยกระดาษสีเงินผูกโบว์สีขาว
“ชิ้นนี้มีรสขมด้วยนะ หนูเป็นเด็กกินลูกกวาดดีกว่าไหม” ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนพร้อมกับแนะนำลูกกวาดสีสดใสข้างๆ วันนี้เธอและเขาเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้คิดเอาชนะด้วยการแกล้งอีกแล้ว
“หนูอยากกินชิ้นนี้นี่นา...” แววตาของเธอคลายความสดใสลงไป ก่อนที่ประกายนั้นจะกลับขึ้นมาใหม่พร้อมน้ำเสียงที่อ้อนวอนกึ่งรบเร้า “ถ้าอย่างนั้นหนูชิมก่อนได้ไหม ถ้าไม่อร่อยแล้วหนูจะซื้ออย่างอื่น หนูเอาอย่างอื่นกลับบ้านก็ได้แต่ต้องลองชิ้นนี้ก่อนนะ พี่ชายให้หนูชิมนะ” เพียงประโยคแรกเขาก็สิโรราบให้กับเธอแล้ว ใครจะยอมใจแข็งอยู่ได้เมื่อได้ยินเสียงเล็กๆ ที่อ่อนหวานเช่นนี้ เขาตัดแบ่งช็อกโกแลตในถาดที่ยังไม่ได้ห่อให้เธอลองชิมก่อน ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะได้เห็นหน้ายู่ๆ ของเธอหลังจากได้ลิ้มรสขมเข้าไป
“อร่อยจัง...” ชายหนุ่มประหลาดใจที่เธอชอบรสชาติช็อกโกแลตแบบผู้ใหญ่นี้
เด็กมักจะชอบขนมหวานนี่นา หรือว่าเด็กคนนี้จะแกล้งบอกเพราะกลัวเสียฟอร์มกันแน่
เธอเงยหน้าขึ้นมามองเข้าด้วยความสงสัย “ไม่เห็นขมเลยนี่คะ ทำไมพี่ชายบอกว่าขม” ชายหนุ่มยิ่งสงสัย เขาตัดชิมคำหนึ่ง รสชาติหวานกลมกล่อมดั่งช็อกโกแลตร้อนที่เขาเคยดื่มกระจายทั่วลิ้น

..................

เขาเดินออกมาหน้าร้านส่งลูกค้าตัวน้อย เด็กผู้หญิงถือช็อกโกแลตในมือกึ่งเดินกึ่งกระโดดกลับบ้าน เธอหันมาโบกมือให้เขาก่อนที่จะมุ่งหน้าต่อไป มันช่างดูเป็นการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของนักผจญภัยตัวน้อยจริงๆ
เจ้าของรอยยิ้มหวานจากไปแล้วแต่ในใจเขายังคงมีรสชาติความหอมหวานกรุ่นอยู่ไม่คลาย

..................

หลายปีที่ผ่านมาเขาเคยทำช็อกโกแลตขมนั้นได้เป็นรสชาติเดิมไม่แปรเปลี่ยน แต่ทำไมวันนี้รสชาตินั้นถึงจางหายไป
มันกลายเป็นรสชาติใหม่ที่เขาเองอดรู้สึกชื่นชมมันไม่ได้
หรือเพราะเมื่อคืนในความฝัน เขามีเด็กผู้หญิงคนนี้อมยิ้มอยู่เคียงข้าง
เธอปลุกให้เขาสามารถลิ้มรสชาติแสนหวานของชีวิตได้บ้าง แม้ที่ผ่านมาความฝันของเขาจะปะปนไปด้วยความขมไม่จาง

ความหวานของรอยยิ้มและลักยิ้มบนใบหน้านั้นเพิ่มรสชาติในความทรงจำของเขาขึ้นอีกรสชาติหนึ่ง ซึ่งเมื่อเธอเดินผ่านบ้านใครต่อใคร เธอคงสร้างรสชาติใหม่ให้กับพวกเขาเหล่านั้นได้เช่นกัน


.....................

โจทย์ของงานชิ้นนี้คือ ช็อกโกแลต ค่ะ พลางคิดถึงตัวเองที่ชอบกินช็อกโกแลตและบรรยายออกมาอย่างนี้
ถ้าใครมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับช็อกโกแลตลองมาแลกเปลี่ยนกันบ้างนะคะ

No comments: