Tuesday, April 08, 2008

อัมพวา


เดินไปยิ้มไป

นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้ปล่อยให้ 2 ขาพาตัวเอง
ไปท่องเที่ยวไกลห่างจากตัวเมือง
เยี่ยมเยียนตลาด ร้านค้า ผู้คนมากหน้า หลายตา
อัมพวามีทั้งเรือ รถจักรยาน สะพาน บ้านไม้เก่าๆ
ส่วนเรานำพาความเหนื่อยล้ามาทิ้งไว้ที่นี่
ฝากให้ลอยไปกับสายน้ำ
ประทับรอยเท้าที่เปลือยเปล่าไว้บนพื้น
เก็บฝุ่นกลับบ้าน
ส่วนหัวใจ ชุ่มชื่น รื่นรมย์ยิ่งขึ้น
มีชีวิตชีวากับบรรดาของที่ระลึกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ขนมอร่อยๆ
ปลาทูสดๆ ทอดราดน้ำปลา
คงไม่ต้องไปหาความสุขที่ไหนไกล
มีโอกาสอีกเมื่อไรจะกลับมาอัมพวาอีกแน่นอน

ดีใจจริงๆ



แม้ว่าเรื่องที่เพิ่งเขียนก่อนหน้านี้
จะมาจากการตั้งโจทย์ร่วมกันของพี่วิภว์

แต่ดีใจที่เรื่องราวในความคิดนั้น
ยังคงดำรงอยู่จริง

...

เรื่องมีอยู่ว่า

เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งได้ไปดูคอนเสิร์ต
Bangkok Soul Much กับเพื่อนๆ โดยบังเอิญ

ความตั้งใจในตอนแรกอยากจะไปนั่งกินข้าวกันเฉยๆ
เพราะเพื่อนอีกคนนึงเพิ่งกลับมาจากอเมริกา

จนไปถึงแล้วรู้ว่าร้านปิดถึงเปลี่ยนแผนกันไปดูคอนเสิร์ตซะอย่างนั้น
กว่าคนจะมากันครบลงตัว กว่าจะได้เข้าไปดูคอนเสิร์ตกันจริงๆ
วงดนตรีก็เล่นไปหลายวงแล้ว
เราได้ดูวง ETC. กับ Groove Rider แค่ 2 วง
แต่กระโดดโลดเต้นกันสนุกสนานมาก
จำได้ว่าเคยสนุกอย่างนี้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
เวลามีวงดนตรีมาแคมปัสทัวร์ที่มหาวิทยาลัย
พวกเราจะออกไปดูวงที่ชอบ
แม้ไม่มีแอลกอฮอลเราก็เต้นกันเหมือนเมาได้
ตอนปี 4 เคยออกไปเต้นทั้งผ้าถุงต่อหน้าน้องๆ เฟรชชี่มาแล้ว
พอย้อนนึกกลับไปตอนนั้นยังตลกตัวเองไม่หาย
ดีใจจริงๆ ที่วันนั้นเราได้ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน
และจะยิ่งดีใจกว่าถ้าเราได้ไปดูกันอีกในงานต่อๆ ไป
ตอนนี้เริ่มกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมอีกครั้ง
คงจะมีเวลาหาคอนเสิร์ตดูมากขึ้น
(แต่เสียดายเหมือนกันที่อายุปูนนี้แล้วต้องบอกลาผ้าถุงไป
เพราะเวลาใส่ผ้าถุงเต้นแล้วได้อารมณ์อย่างบอกไม่ถูก)