Monday, December 18, 2006

เด็ก

เมื่อไรที่ก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เราจะไม่มีวันกลับไปเข้าใจเด็กอีกเลย!!!

คิดอย่างไรกับประโยคข้างบนนี้บ้าง
เราเห็นด้วยนิดหน่อย
และไม่เห็นด้วยอีกนิดหน่อย

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าตอนนี้เข้าไปทำงานกับเด็กๆ มากมาย
ถึงจะแค่ 10 คนเท่านั้น
แต่เมื่อทุกคนมาอยู่รวมกันและเล่นพร้อมๆ กันนั่นเรียกได้ว่าเป็นพลังงานที่มากมายหลั่งไหลเข้ามาปะทะกับเรา

ทั้งๆ ที่เป็นผู้ใหญ่กว่าและตัวใหญ่กว่าตั้งเยอะ กลับสู้แรงพลังของเด็กๆ ไม่ได้เลย

ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขามีพลังชีวิตที่ต้องการการเรียนรู้มากกว่า
สนุกสนานง่ายกว่า
เสียใจง่ายกว่า
รักมากกว่า
จริงใจกว่า
สับสนกว่า
เข้าใจอะไรยากกว่า
เข้าใจอะไรง่ายกว่าในบางเรื่อง

และอีกมากมายที่มีมากกว่าผู้ใหญ่อย่างเราๆ

ตอนนี้มีอีกหลายเรื่องที่พยายามทำความเข้าใจและต้องอดทนเรียนรู้พวกเขาทีละนิด

ไม่ใช่ไม่เข้าใจเอาเสียเลย
เพราะแม้เราห่างจากเวลานั้นมาแล้ว แต่เราต้องสวมเอาความคิดของพวกเขาไว้ในตัวเพื่อช่วยให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีบ้าง
...

Wednesday, September 06, 2006

สายฟ้า

ก้อนเมฆของเมื่อวานกับวันนี้ไม่เหมือนกัน
ก้อนเมฆของเมื่อวานกับวานซืนยิ่งต่าง
บางวันมีเมฆหนาพื้นที่สีขาวครองท้องฟ้า
บางวันเป็นเพียงสายเบาบางเผยให้เห็นฟ้ากว้าง
...

ย้อนเวลากลับไปหาท้องฟ้าในอดีตทุกวันที่เงยหน้าขึ้นมอง ยังไม่เห็นว่ามีวันไหนที่มีก้อนเมฆซ้ำกันสักวัน

ท้องฟ้าช่างขยันจริง
ขยันกว่าเราหลายเท่านัก
ทุกวันมัวแต่นั่งทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ
มีชีวิตอยู่ตามตารางเวลาแม้ไม่ต้องทำงานตอกบัตร

เมื่อนึกอย่างนี้แล้วอยากจะหนีไปให้ไกลนัก
ให้ไกลออกจากเส้นตารางที่ขีดกั้นไม่ให้เดินออกจากเส้นทาง

...
เดือนก่อนมีเมฆฝนมากมายก่อตัวขึ้น
พวกมันรวมตัวกันเป็นก้อนเล็กก้อนใหญ่
เห็นแล้วใจหาย

ในใจหวั่นว่าฝนจะตก ฟ้าจะผ่าหรือไม่

ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนจะไม่เคยหวั่นกลัวฝนมาก่อน
ไม่กลัวเพราะไม่รู้อันตรายจากฟ้าผ่า
ไม่กลัวเพราะไม่รู้จักไข้หวัด
ไม่กลัวเพราะห่วงว่าจะไม่ได้เล่นน้ำฝนมากกว่าห่วงเปียก

ทันใดนั้นเห็นสายฟ้าผ่าลงมาจริงๆ
ไม่นานฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่
ไม่ว่าเป็นใครหากไม่มีร่มกำบังต้องเปียกปอนเป็นแน่

...

ตอนนี้เรากลับเลิกกลัวฟ้าฝนอีกครั้ง
ไม่ใช่เพราะไม่รู้จักอันตรายที่อาจได้รับจากธรรมชาติ
ไม่ใช่เพราะแข็งแกร่งจนไม่กลัวเจ็บป่วย

หากแต่เพราะอิจฉาอิสระเช่นฟ้าเหลือเกิน
อิสระที่สามารถสรรค์สร้างภาพที่แตกต่างกันได้ทุกวัน
อิสระที่สามารถปลดปล่อยเม็ดฝนโดยไม่เกรงใจใคร
อิสระที่ได้ทำตามธรรมชาติของตัวเอง

Tuesday, August 22, 2006

เหนือสิ่งอื่นใด

เมื่อไรที่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มเหนื่อยกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ เราจะหาสิ่งที่เข้ามาชะโลมจิตใจให้กับตัวเองอยู่เสมอ
ความเหนื่อยที่ว่านี้ไม่ได้ต้องการเวลาพักผ่อนหรืออย่างไร
หากแต่ต้องการอิสระไว้เพื่อสร้างความสุขให้กับจิตใจเท่านั้น

เมื่อปีที่แล้วเป็นช่วงชีวิตที่ได้ลิ้มลองการทำงานเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเราได้รู้ว่าเงื่อนไขที่เขาว่ากันว่า...
ทำงานไม่สนุกอย่างที่ฝันไว้หรอก ไม่มีงานไหนที่ทำให้รู้สึกมีความสุขได้ทุกวัน
ไม่มีสังคมที่ทำงานไหนให้ความรู้สึกเหมือนพี่น้อง หรือครอบครัวได้
ฯลฯ

สิ่งที่เขาเคยว่ากันไว้ ไม่มีอะไรจริงเลยสักอย่างเดียว

มันขึ้นอยู่กับว่าเราค้นพบสถานที่ซึ่งเหมาะสมกับเราได้หรือเปล่าเท่านั้น
จนกระทั่งเวลาผ่านไป ไม่มีอะไรหยุดนิ่งอยู่กับที่ แม้กระทั่งความสุข สนุกสนาน

เราไม่ได้เรียกร้องให้ทุกสิ่งทุกอย่างคงเดิม
เรารู้ว่าทำไม่ได้
สิ่งที่ทำได้คือต้องเติมความสุขให้กับตัวเอง
เพื่อวันนึงเราจะมีแรงกำลังสร้างสรรค์ตามใจได้เหมือนเดิม

ขอเพียงอิสระเพื่อพักฟื้นชีวิตชีวาให้หัวใจเท่านั้น

ซึ่งที่นี่สามารถให้เราได้

ที่ซึ่งเราทิ้งไปเป็นปี
และยังคงอยู่ที่เดิมไม่แปรเปลี่ยน

Get the way to coming back here

I have lost my way to get into my blog for year!
Because I got a job and I lost my time.
most of the sorrow in my mind is I spend so much time to my work and don't writing my own story at all.

I will begin writing my blog again today.
This is what I should tell myself.

I didn't use english as I used to. Now I know how hard to start thinking in english again.

Maybe I would write it in Thai.
No matter who could understand. I just want to Keep Writing.

I miss myself so much