Monday, July 09, 2007

ฟากฟ้า



เมฆฝนลอยหายไปเบื้องหน้าแล้ว

เหลือเพียงเรายืนเท้าเปลือยเปล่าบนหาดทรายกว้าง



ฟ้าแม้ยังดูหนักหน่วงด้วยปุยเมฆ

แต่ยังมีลำแสงส่องผ่านให้เบาใจ


จริงอยู่แสงแดดคล้อยผ่านตามกาลเวลา


ไร้เรี่ยวแรงแผดเผาสิ่งใด

แต่กลับสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่แสงแดดมอบให้

พลังใจที่อบอุ่นอ่อนหวาน ช่วยปลอบโยนกายที่เหนื่อยล้า


หากวันใดที่ฟ้าเปิด
สว่างสดใส
ปล่อยโอกาสให้แดดได้ส่องโดยสายตาไม่อาจสู้
เราจึงได้แต่ยอมแพ้
หาร่มเงาเพื่อหลีกทางให้แสงส่องแต่โดยสะดวก

หลังจากนี้เราคงคอยมองหาดวงดาวที่เข้ามาส่องประกายให้ฟากฟ้า
รอคอยรอยยิ้มในหัวใจของคนที่อาจเฝ้ามองดาวดวงเดียวกันกับเรา
เมื่อเวลาล่วงเลยผ่าน
เราอาจอยากอยู่จนถึงรุ่งสาง
หาที่กำบังจากน้ำค้าง
หวังจะพบแสงแรกของวันบ้าง
ฟากฟ้าแบบไหนจึงเป็นที่ปรารถนา
อาจจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของหัวใจ
ที่จะกำหนดทิศทางของความรู้สึก
กำหนดภาพฉากที่ต้องการพบเจอ

สิ่งที่ทำได้

อาจเพียงต้องหลบหลีกจากความเคยชินเท่านั้น

จึงจะได้เห็นฟากฟ้าอย่างที่มันเป็น

No comments: